เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มี.ค.58 ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 ได้รับแจ้งจาก นายณัฏฐ์ ปิ่นโพธิวงศ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/101 หมู่ 7 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขอให้ติดตามจับกุมตัว น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุประมาณ 30 ปี ภายหลังจากได้หลอกลวงต้มตุ๋นเอาเงินของตนไปพร้อมกับเพื่อนๆ อีก 4 คน รวมเงินประมาณ 3 ล้านบาท โดยตนสูญเสียเงินสดกว่า 1 กว่าบาท รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค ราคาประมาณ 6 แสนบาท อีก 1 คัน
นายณัฏฐ์ เผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือน พ.ค.56 ได้รู้จักกับ น.ส.สวย ผ่านเว็บไซต์ จนสนิทถึงขั้นเป็นแฟนกัน ระหว่างที่คบกัน ก็ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายหนังสือ ซึ่งส่งขายให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยครั้งแรกให้ร่วมลงทุนประมาณ 60,000 บาท และได้กำไรทันทีภายใน 1 เดือน 1 หมื่นบาท ตนจึงหลงเชื่อ และร่วมลงทุนเรื่อยมา กระทั่งหมดเงินไปล้านกว่าบาท เมื่อทวงถามค่ากำไรที่ได้กลับคืนมา น.ส.สวยก็อ้างว่า ถูกบริษัทหนังสือติดค้างอยู่ เงินจึงไม่เข้าบัญชี และขอเวลาให้บริษัทสักระยะหนึ่ง ด้วยความรักและไว้เนื้อเชื่อใจในแฟนของตนเอง จึงยอมเรื่อยมา
นายณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ยังคงมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ น.ส.สวย ยังได้หลอกให้ตนเชื่ออีกว่า ทางบ้านของ น.ส.สวย มีเงิน มีฐานะดี มีพ่อเป็นนายทหารยศพันโท อยู่ที่จังหวัดราชบุรี ทำธุรกิจที่ต่างประเทศด้วย จึงหลงเชื่อว่าทางบ้านแฟนสาวมีฐานะดีจริง เพราะเคยเอาเงินสดไปซื้อรถยี่ห้อโตโยต้าคัมรีล้านกว่าบาท ด้วยเงินสด ซึ่งครั้งนั้นก็จ่ายเงินสดจริง อีกทั้งยังพาไปซื้อบ้านในราคา 12 ล้านบาท แต่ได้วางมัดจำจองล่วงหน้า สองแสนบาท ก็จ่ายเงินสดจริง จึงหลงเชื่อว่าจะคบกันด้วยความจริงใจ และเมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา ตนเริ่มทวงถามเงิน ก็บ่ายเบี่ยงอีก และยังยุให้พาไปยืมเงินเพื่อนและแม่บ้านรวมเป็นเงินอีกล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถนำเงินมาคืนให้ ตนจึงได้ขอเลิก แต่ถูก น.ส.สวย อ้างว่า ถ้าเลิกจะให้พ่อซึ่งเป็นนายทหารพาลูกน้องมารุมทำร้ายและอุ้ม ด้วยความกลัวจึงยอมแกล้งคืนดี และแอบเช็กประวัติของพ่อที่อ้างว่าเป็นนายทหารยศพันโท กลับไม่มีรายชื่อในสารบบ จึงเชื่อว่าโดนหลอก จึงแอบหนีมาแจ้งความกับตำรวจเพื่อช่วยติดตามจับกุมก่อนที่จะหลบหนีดังกล่าว
พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ. 5 เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องคดีฉ้อโกงกันธรรมดา ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานไม่เกินสัปดาห์น่าจะนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ เพราะคดีนี้ผู้เสียหายเองได้ไปแจ้งความไว้แล้วในคดีฉ้อโกงที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จากนี้ไปจะสั่งการให้ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ. 5 สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว คาดว่ายังคงกบดานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่.
ที่มา,http://www.thairath.co.th/
0 comments:
Post a Comment