ไทยปัดกีดกันนำเข้า 17 สินค้า แจงหวังยกระดับมาตรฐานสินค้า

พาณิชย์ ปัดใช้มาตรการสกัดนำเข้า 17 สินค้าตอบโต้สหรัฐ-อียู แจง เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าเพื่อประชาชนได้บริโภคสินค้าดีขึ้น เตรียมเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการเร็วนี้

นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ได้รับทราบรายงานศึกษาเรื่องการนำเข้าที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดมาตรฐานสินค้าอุปโภคบริโภค 17 รายการนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ จะเรียกประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็วๆ นี้

"รายงานดังกล่าว สนค. จัดทำเป็นประจำทุกเดือน และได้เสนอสินค้าอุปโภคบริโภค 17 รายการซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นสินค้าไม่จำเป็นต่อการครองชีพ เพื่อประเมินสถานการณ์ไม่ได้เป็นการตอบโต้สินค้านำเข้าในประเทศใด"

โดยในรายงานฉบับนี้พบว่า มูลค่าการนำเข้าในระยะ 5 ปี (2552-2556) ขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.2% ต่อปี สูงกว่าอัตราการขยายตัวของการส่งออกที่เฉลี่ยอยู่ที่ 6.1% ต่อปี โดยกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการนำเข้ารวม ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง ทุน อุปโภคบริโภค และหมวดยานพาหนะและการขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาเพื่อผลิตและส่งออก

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้า 17 รายการที่ไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้า แต่มีการนำเข้าในอัตราสูง เพื่อตอบสนองต่อรสนิยมของผู้บริโภค และบางส่วนเป็นสินค้าที่มีราคาถูกแต่อาจมีคุณภาพต่ำ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งจากผลไม้ สบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งในบ้านเรือน นาฬิกาและส่วนประกอบ กระเป๋า กาแฟ ชา เครื่องเทศ รองเท้า กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องประดับอัญมณี ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม น้ำแร่ น้ำอัดลม และสุรา เลนส์แว่นตา และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ขนมหวานและช็อกโกแลต เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ใช้งาน โดยเสนอในที่ประชุม ครม. พิจารณาตามข้อเสนอของกระทรวงเพื่อให้มีการยกระดับมาตรฐานการนำเข้าสินค้าให้ มีความเข้มข้นมากขึ้น แต่ไม่ใช่ยกระดับเฉพาะมาตรฐานสินค้านำเข้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยกระดับสินค้าภายในประเทศด้วย เพื่อให้ประชาชนไทยได้สินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ มาตรฐานดังกล่าวนั้นจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบการค้า ไม่เป็นการกีดกันทางการค้า การนำเข้าเพราะหากจะดำเนินการใด ๆ นั้น อาจจะไปขัดกฎระเบียบ หรือข้อตกลงการเจรจาด้านการค้าที่ไทยผูกพันไว้ นอกจากนี้ ยังหวังว่าการยกระดับมาตรฐาน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้มีต่อสินค้าไทยได้โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหาร ผัก เพราะปัจจุบันรับว่าสินค้าไทย เช่น ผัก ยังถูกตรวจสอบคุณภาพและไม่ผ่านมาตรฐานการนำเข้าของสหภาพยุโรป

สำหรับการยกระดับมาตรฐาน ประกอบด้วย

1) ยกระดับมาตรฐานของสินค้าที่จำหน่ายในประเทศให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ลดปัญหาการนำเข้าสินค้าที่มีคุณภาพต่ำเข้ามาในประเทศ

2) ช่วยเหลือวิจัยพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพ รวมถึงจัดหาเทคโนโลยีทันสมัย ราคาย่อมเยา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

3)สนับสนุนให้หันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซล หรือพลังงานทดแทนมากขึ้น รวมถึงการรณรงค์ใช้พลังงานอย่างประหยัด

"สินค้านำเข้าส่วนใหญ่นำ เข้ามาจากประเทศพัฒนาแล้ว พวกแบรนด์ดัง แต่การยกระดับมาตรฐานสินค้า ไม่ได้เป็นการตอบโต้ประเทศผู้ส่งออก ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะสินค้า 17 รายการเป็นกลุ่มที่มีการเขียนรายงานวิเคราะห์มานานแล้ว"

ที่มา,http://www.prachachat.net/