กรณีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี เสี่ยบริษัทนำเข้ารถหรู ควบรถเบนช์ รุ่น CLK สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า สีเทา ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพมหานคร ที่ติดแก๊สระเบิดไฟลุกท่วม ทำให้นายกฤษณะ ถาวร นิสิตปริญญาโท คณะพุทธศาสตร์ สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) และ น.ส.ธันฐภัทร หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี นิสิตปริญญาโท มจร.เพื่อนสาวถูกไฟคลอกเสียชีวิต 2 ศพ ที่ถนนพหลโยธิน กม.533 หมู่ 8 ต.เชียง–รากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และทั้งคู่ได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว ส่วนทางด้านคดีทางผู้บังคับบัญชาสั่งให้โอนคดีจากพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชาไปให้ บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ทำคดีแทนเนื่องจากทำคดีล่าช้า พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ความคืบหน้าต่อมาเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันที่ 21 มี.ค. จะเป็นตัวแทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนายกฤษณะ หรือโต้ง ถาวร ที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 9 ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี หลังจากที่ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การเดินทางไปครั้งนี้จะได้นำเรียนรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแนวทางการทำงานของคณะพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีกับนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาในคดี ทั้งนี้ เพื่อให้ครอบครัวของเหยื่อได้เข้าใจและเชื่อมั่นในการทำงานของพนักงานสอบสวน และพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอต่างๆ มาประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวถึงความคืบหน้าของการรวบรวมพยานหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งจากที่เกิดเหตุ จากลักษณะของตัวรถ และพยานที่เป็นคลิปต่างๆไว้ทั้งหมดแล้ว และจะประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญตลอดจนตัวแทนของบริษัทรถยนต์ในวันจันทร์นี้ เพื่อร่วมกันพิจารณาให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับความเร็วของรถในขณะเกิดเหตุ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ขับขี่ และประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง จากนั้นจะส่งความเห็นทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนและพิจารณามีความเห็นทางคดีต่อไป สำหรับการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหานั้น ได้ทราบจาก พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนว่า อยู่ระหว่างการประชุมสรุปพยานหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องจากการปฏิเสธการเจาะเลือดของผู้ต้องหา และพฤติการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับรถในระหว่างมึนเมา หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา: thairath
0 comments:
Post a Comment