จากกรณีคดีสะเทือนขวัญในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช คนร้ายก่อเหตุบุกยิงทำร้ายพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง หวังสังหารแบบยกครัว แต่ปรากฏว่าแม่และลูกสาวหนีหายเข้าไปในป่ารอดชีวิต ส่วนพ่อและลูกชายถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ในเวลาต่อมา นายศิริชัย อายุ 30 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัว หลังถูกศาลออกหมายจับเป็นผู้ต้องหาคดีดังกล่าว แต่เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการสืบสวนหาหลักฐานมามัดตัว โดยเฉพาะเบาะแสจากรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ มีลักษณะคล้ายกันเป็นอย่างมาก ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา นางวาสนา อายุ 26 ปี เดินทางไปบ้านพักที่ข้างวัดมะม่วงตลอด ตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่จัดงานศพ นายสุเทพ อายุ 29 ปี และ เด็กชายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 2 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว หลังจากที่ นางวาสนา เพิ่งทราบข่าวการเสียชีวิต วิงวอนต้องการมาพบศพสามีและลูกชาย
ตามรายงานระบุว่า นางวาสนา ที่หลังจากเกิดเหตุเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พร้อมกับลูกสาวที่รอดชีวิตมาด้วยกัน โดยที่ญาติๆ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข่าวร้ายให้กับ นางวาสนา ทราบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสามีและลูกชายจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจซ้ำเติม
จนกระทั่งหลังเข้ารับการผ่าตัด นางวาสนา เพิ่งจะได้ทราบว่า สามีและลูกชายได้เสียชีวิตลงแล้ว มีการจัดงานศพอยู่ที่บ้านพัก จึงมีอาการร้องไห้ฟูมฟาย รู้สึกเสียขวัญและทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการสูญเสียครั้งนี้ พร้อมกับวิงวอนให้เจ้าหน้าที่พาไปร่วมงานศพ อย่างน้อยได้บอกลาสามีกับลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย สร้างความโศกเศร้าสะเทือนใจแก่ญาติพี่น้องที่ร่วมอยู่ในงานศพเป็นอย่างมาก
ขณะที่ความคืบหน้าในส่วนคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังควบคุุมตัว นายศิริชัย ผู้ต้องหา ฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากคัดค้านการประกันตัว แม้ว่าเจ้าตัวจะยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม ส่วนการตรวจสอบรถกระบะอีซูซุสีเทา ที่กลายเป็นรถต้องสงสัย หลังปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตร พบว่ามีพิรุธหลายจุด
รถกระบะคันดังกล่าวสภาพใหม่ถูกล้างมาอย่างดี ทั้งภายในและภายนอก มีการเปลี่ยนล็อแม็กซ์ใหม่ ยางรถใหม่ทั้ง 4 ล้อ และพบร่องรอยติดสติ๊กเกอร์ใหม่เอี่ยมทั้งสองด้านของตัวถังรถ มีร่องรอยน้ำยาสำหรับติดสติ๊กเกอร์ยังใหม่เยิ้มอยู่ในบางจุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าจะสามารถรวบรวมหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิดได้เร็วๆ นี้ พร้อมยังจัดกำลังเฝ้าดูแลพยานคนสำคัญคือ นางวาสนาและลูกสาว ซึ่งในส่วนของลูกสาวนั้นยังมีภาวะอาการสมองบวม รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังญาติๆ เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก เนื่องจากผู้ต้องหามีญาติเป็นคนในเครื่องแบบ อาจจะมีอิทธิพลและวิ่งเต้นคดีนี้ จนไม่ได้รับความยุติธรรม
ที่มา: sanook
0 comments:
Post a Comment