ความเคลื่อนไหวของทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนรับถ้วยพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการหลังจบเกมที่พบกับเอฟเวอร์ตัน ที่สนามคิง เพาเวอร์ ในวันเสาร์ที่ 7 พ.ค. โดยสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ สัมภาษณ์ “ต๊อบ” นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 6 พ.ค. โดยบีบีซีระบุว่า เจ้าของทีม และผู้บริหารชาวไทยไม่ค่อยได้ให้สัมภาษณ์สื่อมากนักนับตั้งแต่เข้ามาซื้อทีมเมื่อปี 2010 แต่ครั้งนี้เป็นการเปิดใจยาวเหยียดหลังจากสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบช็อกวงการลูกหนังและวงการกีฬาของโลก
ทั้งนี้ นายอัยยวัฒน์กล่าวถึงเคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือชาวอิตาเลียน ที่เข้ามารับตำแหน่งในฤดูกาลนี้ ท่ามกลางความประหลาดใจของผู้คน เพราะเขาทำผลงานย่ำแย่กับทีมชาติกรีซจนถูกปลด ว่า รานิเอรี เป็นผู้จัดการทีมชั้นยอด รับมือกับสื่อและช่วยลดแรงกดดันให้ลูกทีมได้เป็นอย่างดี มีประสบการณ์สูง ตอนที่จะหาผู้จัดการทีมคนใหม่ เลสเตอร์เรียกมาสัมภาษณ์หลายคน แต่ตนตัดสินใจเลือกรานิเอรี ที่ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของตนอย่างแท้จริง
ส่วนการซื้อเจมี วาร์ดี ดาวยิงตัวเก่งของทีม จากฟลีตวูด ทาวน์ ทีมนอกลีกเมื่อปี 2012 นั้น นายอัยยวัฒน์เผยว่า สตีฟ วอลช์ หัวหน้าแมวมองของสโมสรแนะนำให้ตนซื้อนักเตะจากทีมนอกลีก ซึ่งตนคิดว่าล้อเล่น จนกระทั่งวอลช์เอาข้อมูลเกี่ยวกับ วาร์ดีมาให้ดู พบว่ามีสถิติที่น่าทึ่ง ยิงได้ฤดูกาล 29-30 ลูก
“ตอนที่ผมเจอวาร์ดีครั้งแรก เขาเป็นคนที่มีบุคลิกโดดเด่น เขาอยากประสบความสำเร็จ ต้องการเป็นศูนย์หน้าอันดับ 1 ของทีม แม้จะเพิ่งย้ายมาจากทีมนอกลีกก็ตาม เขาอยากเล่นในพรีเมียร์ลีก และมุ่งมั่นที่จะช่วยทีมให้ขึ้นชั้นให้ได้ วันแรกที่พบกันวาร์ดีประกาศเลยว่า เขาจะติดทีมชาติอังกฤษให้ได้ ผมบอกว่า เราจะช่วยคุณให้ฝันเป็นจริง” รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าว และระบุถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกว่า เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการกีฬา ไม่ใช่แค่กีฬาเท่านั้น คนทั่วไปก็ดูเลสเตอร์เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตได้ ถ้าทุกคนมีความพยายาม สู้ให้ถึงที่สุด วันหนึ่งย่อมประสบความสำเร็จได้
เมื่อถามถึงอนาคตนักเตะ โดยเฉพาะริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย ที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดยี่ยมแห่งปีจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ หลังจากเอเย่นต์ของนักเตะเผยว่า โอกาสที่มาห์เรซจะอยู่หรือไป 50-50 นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ฤดูกาลหน้าทีมจะได้เล่นในแชมเปียนส์ลีก ตนมองไม่เห็นเหตุผลที่จะทำให้นักเตะย้ายออกไป
“เราจะพยายามรั้งนักเตะให้อยู่กับทีมต่อแต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาด้วย ถ้าเขาอยากย้าย เราก็ต้องมาคุยกันว่าเป็นเพราะเหตุใด” นายอัยยวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกชายของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรและเจ้าของทีมชาวไทย กล่าวอีกว่า ไม่มีเคล็ดลับอะไรมากมายในความสำเร็จครั้งนี้ แต่สิ่งสำคัญคือ สปิริตของนักเตะในทีมสุดยอดมาก ทุกคนทุ่มเท สู้เต็มที่เพื่อกันและกัน ใครๆก็บอกว่าเลสเตอร์จะร่วงไปอยู่กลางตาราง แต่ทุกคนในสโมสรก็มียังมีความใฝ่ฝันและเชื่อมั่นเหมือนเดิม
“เราซื้อทีมเพราะเรารักฟุตบอล เราจะพยายามเต็มความสามารถเพื่อนำทีมประสบความสำเร็จให้ได้ พ่อของผมบอกว่า วันหนึ่งอยากเห็นเลสเตอร์ ไปเล่นแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเราก็วางแผนกับสตาฟฟ์โค้ชไว้ตั้งแต่ตอนนั้น เป้าหมายในอนาคตเราต้องการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง สู้กับทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกได้ เล่นในพรีเมียร์ลีกยาวนาน และจะพยายามคว้าแชมป์ให้ได้อีก ส่วนแชมเปียนส์ลีก ผมไม่กล้าพูดหรอกว่า เราจะคว้าแชมป์ แต่จะสู้ให้ถึงที่สุด เราต้องการให้ นักเตะตัวหลักอยู่กับทีมต่อไป และหาผู้เล่นฝีเท้าดีมาเพิ่มเติม แต่ยังไม่แน่ใจว่า ฤดูกาลหน้าจะเป็นอย่างไร หากทีมงานแมวมองขอให้เราซื้อนักเตะคนไหน ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากรานิเอรีด้วย เราไม่ใช่เจ้าของทีมประเภทซื้อใครก็ได้ตามที่ต้องการ ไม่ใช่ทีมที่จะซื้อนักเตะระดับโรนัลโดและเมสซี การทำทีมบอลไม่ใช่แค่มองฤดูกาลหน้า เราต้องมองไกลไปอีกหลายปี เป็นโครงการระยะยาว” นายอัยยวัฒน์กล่าว
บีบีซีถามถึงสถานะการเป็นเจ้าของทีมต่างชาติ ในขณะที่หลายทีมมีเจ้าของต่างชาติเช่นกัน แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า เลสเตอร์มาถึงจุดนี้ได้เพราะครอบครัวของเขาทำในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม
“คนไทยรักฟุตบอล และชื่นชอบพรีเมียร์ลีกมากที่สุด ความสำเร็จของเลสเตอร์ทำให้คนไทยภาคภูมิใจ พวกเขาเฝ้ารอให้นักเตะมาเมืองไทย เพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณ นาทีนี้ถ้าแมนฯยู เตะในเวลาเดียวกับเลสเตอร์ คนไทยจะหันไปดูเลสเตอร์กันมากขึ้น พวกเขาอยากดูทีมที่มีเจ้าของเป็นคนไทย ถ้าคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งดีๆ ก็จะตามมาเอง เราทำได้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วที่รอดตกชั้น ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เราก็ขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ เราให้การสนับสนุนนักเตะ, สตาฟฟ์โค้ชและแฟนบอลอย่างเต็มที่ ทุกเรื่องทั้งในและนอกสนาม ถ้าวางรากฐานไว้ดี อนาคตก็จะดีไปด้วย ผมเชื่อว่า เจ้าของทีมทุกสโมสรล้วนพยายามเต็มที่เพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จ คนเหล่านี้ล้วนทุ่มเทและรักกีฬา เราเองก็เช่นกัน เรารู้ดีว่า แฟนบอลมีความสำคัญมากแค่ไหน ผมอยากให้ช่วยกันสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ทีม ถ้าเล่นในบ้าน พวกเขารู้สึกมั่นใจ และตอนนี้เมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน พวกเขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน นักเตะจึงเล่นเพื่อกองเชียร์จริงๆ” นายอัยยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนบรรยากาศที่สนามคิง เพาเวอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เลสเตอร์วางขายชุดแข่งใหม่สำหรับฤดูกาลหน้าเป็นวันแรก ปรากฏว่า มีแฟนบอลมาเข้าคิวรอซื้อเสื้อที่ร้านขายของที่ระลึกของสโมสรกันแน่นขนัด และในเกมรับถ้วยแชมป์ที่พบกับเอฟเวอร์ตันในวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.อันเดรีย บอเชลลี นักร้องโอเปราชื่อก้องโลกชาวอิตาเลียนจะมาร่วมขับกล่อมที่สนามคิง เพาเวอร์ ด้วย กุนซือรานิเอรีเผยว่า บอเชลลีสัญญากับเขาเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนว่า ถ้าเลสเตอร์ได้แชมป์จะมาร้องเพลงให้ฟัง
ด้าน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ที่เดินทางไปอังกฤษเพื่อร่วมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะทูตของสโมสร เผยกับผู้สื่อข่าวว่าในการพบกับ เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือเลสเตอร์ เมื่องานแถลงข่าวความพร้อมในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เฮดโค้ชทีมชาติไทยได้มีโอกาสเข้าไปทักทายกับแม่ทัพชาวอิตาเลียนรายนี้ รวมทั้งได้แสดงความยินดีในฐานะแชมป์ลีกแดนผู้ดี
นอกจากนี้ เฮดโค้ชทีม “ช้างศึก” ยังได้เข้าไปขอบคุณ 4 นักเตะของเลสเตอร์ ซิตี้ ในการซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนเปิดบ้านพบกับ เอฟเวอร์ตัน ในวันเสาร์นี้ ไม่ว่าจะเป็น แอนดี คิง, แดนนี ซิมพ์สัน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน และ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมอวยพรก่อนเกมที่ทีมชาติไทยจะบุกไปเสมอกับอิรัก 2-2 พร้อมกับได้แสดงความยินดีที่ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
“ในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสคุยกับ เคลาดิโอ รานิเอรี ที่สามารถพาเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ได้สำเร็จ กระทั่งการซ้อมครั้งสุดท้าย ผมได้มีโอกาสไปขอบคุณ 4 นักเตะอย่าง แอนดี คิง แดนนี ซิมพ์สัน มาร์ค อัลไบรท์–ตัน และมาร์ค ชวาร์เซอร์ ที่เป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทย ผ่านทางคลิปวีดิโอจนเราสามารถบุกไปเสมอกับอิรักพร้อมกับผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ” กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยกล่าว
สำหรับศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 ในคืนวันเสาร์ที่ 7 พ.ค. มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 7 คู่ โดยไฮไลต์จะอยู่ที่การลงสนามของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์ไปครองเรียบร้อยแล้ว จะเปิดรังคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ฉลองแชมป์รับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่” เอฟเวอร์ตัน เริ่มแข่งเวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางซีทีเอช สเตเดียม 3
ทั้งนี้ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปครองล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด หลังจาก “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส รองจ่าฝูง พลาดท่าทำได้แค่เสมอกับ เชลซี 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้แต้มขาด สเปอร์สหมดสิทธิ์ไล่ทันเลสเตอร์แล้ว นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยแรกของเลสเตอร์ในประวัติศาสตร์ 132 ปีของสโมสร
เกมนี้ เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือจอมเก๋าของเลสเตอร์ จะได้เจมี วาร์ดี กองหน้าตัวเก่ง พ้นโทษแบนกลับมาลงล่าตาข่าย ประสานงานแนวรุกร่วมกับริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย และชินจิ โอกาซากิ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น นอกจากนี้แดนกลางยังมีเอ็นโกโล ก็องเต และแดนนี ดริงก์วอเตอร์ เป็นตัวทำเกมด้วย ขณะที่ทีมเยือน “ทอฟฟี่” เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทัพของโรแบร์โต มาร์ติเนซ จะส่งรอสส์ บาร์คลีย์, เคราร์ด เดวโลเฟว และอารอน เลน–นอน เป็นตัวปั้นเกม คอยเปิดบอลให้โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียมล่าตาข่าย ทั้งนี้ เทียบฟอร์มกันแล้ว เลสเตอร์เหนือกว่าและน่าจะเอาชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ เพื่อเป็นการฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนบอลตัวเองอย่างยิ่งใหญ่
หลังจบเกมนี้จะมีพิธีมอบถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ให้กับทัพ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ต่อหน้าแฟนบอลตัวเองจำนวนหลายหมื่นคนในสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม โดยพลพรรคนักเตะทีม “จิ้งจอกสยาม” จะได้ร่วมกันชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่
ด้าน “ผีแดง” แมนฯยู ที่ยังมีลุ้นติดท็อปโฟร์ จะยกพลบุกไปเยือน “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้ ทีมหนีตายที่ยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ที่สนามแคร์โรว์ โรด เริ่มเตะ 18.45 น. ถ่ายทอดสดทางซีทีเอช สเตเดียม 1 เกมนี้ แมนฯยูต้องการ 3 คะแนน เพื่อลุ้นติดท็อปโฟร์ โดยจะส่งเวย์น รูนีย์, อ็องโตนี มาร์กเซียล และมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานแดนหน้า สำหรับโปรแกรมคู่อื่นๆ ซันเดอร์แลนด์ พบ เชลซี (ถ่ายทอดสดทางซีทีเอช สเตเดียม 4), แอสตัน วิลลา พบ นิวคาสเซิล, บอร์นมัธ พบ เวสต์บรอมวิช, คริสตัล พาเลซ พบ สโต๊ก, เวสต์แฮม พบ สวอนซี เริ่ม 21.00 น. พร้อมกันทุกคู่
นอกจากนี้ในเมืองไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสความแรงของผ้ายันต์แพ้ไม่เป็น “เลสเตอร์ซิตี้” ก็ยังเป็นที่ต้องการของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนนิยมพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ต่างเสาะแสวงหามาบูชา เพราะเชื่อว่ายันต์แพ้ไม่เป็น จะช่วยให้ชีวิตไม่ตกต่ำ และไม่มีคำว่าแพ้ หลายคนมุ่งหน้าไปวัดไตรมิตรวิทยาราม แต่หลังจากพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ “เจ้าคุณธงชัย” ยืนยันว่า ไม่มีขาย แจกอย่างเดียว หลายคนจึงผิดหวัง แต่ยังคงแสวงหา มาเป็นเจ้าของ โดยพบว่ากลุ่มคนที่ได้ไปบูชาเป็นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ชิด นักกีฬา ข้าราชการผู้ใหญ่ หรือกลุ่มเซียนพระเครื่อง ที่เก็บไว้คนละหลายผืน และล่าสุดในเว็บไซต์ซื้อขายพระเครื่องออนไลน์ มีการนำผ้ายันต์สุดฮอตออกมาประกาศซื้อขาย ขณะที่ครูบาอาจารย์บางคนก็ประกาศหาซื้อไปบูชา หวังให้เป็นกำลังใจในการแข่งขันกีฬาของนักเรียน โดยพบว่าในเว็บจี-พระดอทคอม มีคนนำ ผ้ายันต์สีเหลืองทอง ขนาด 20×25 นิ้ว มาตั้งราคา ประมูลที่ 1 พันบาท ซึ่งได้รับความสนใจ มีผู้เข้ามา แข่งประมูลหลายคน และกระทั่งเวลา 17.04 น. คน ที่ชนะประมูลได้ไปในราคา 7,500 บาท ส่วนอีกผืน เป็นผ้ายันต์สีขาว สัญลักษณ์สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ ขนาดเล็ก เปิดประมูลที่ราคา 1 พันบาท มีคนประมูลถึง 2 พันบาท แต่ก็ยังไม่ปิดการขาย
ที่มา: thairath
0 comments:
Post a Comment