Sunday, July 10, 2016

Tagged Under:

‘โปรตุเกส’ แชมป์ยูโร 2016 หลังเฉือนชนะ ‘ฝรั่งเศส’ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0

By: news media On: 7:37 PM
  • Share The Gag

  • ส่วนเฟร์นานโด ซานโตส โค้ชโปรตุเกส อดีตรองแชมป์ 12 ปีก่อน วางหมาก 4-1-3-2 มีผู้รักษาประตู รุย ปาทริซิโอ กองหลังได้ เปเป้ หายเจ็บกลับมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับโจเซ่ ฟอนเต้ ส่วนแบ๊ก 2 ข้างได้แก่ เซดริค โซอาเรส และราฟาเอล เกอร์เรโร่ กองกลางมี วิลเลียม คาร์วัลโญ่ พ้นโทษแบน 1 นัดกลับมาเป็นตัวตัดเกม มิดฟิลด์ตัวรุก เจา มาริโอ, เอเดรียน ซิลวา และเรนาโต้ ซานเชซ คู่หัวหอก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และนานี่

    11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
    โปรตุเกส 4-1-3-2 : รุย ปาทริซิโอ- เซดริค โซอาเรส, เปเป้, โจเซ่ ฟอนเต้, ราฟาเอล เกอร์เรโร่- วิลเลียม คาร์วัลโญ่- เจา มาริโอ, เอเดรียน ซิลวา, เรนาโต้ ซานเชซ- นานี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
    ฝรั่งเศส 4-2-3-1 : อูโก้ โยริส- บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, ซามูเอล เอิงติตี้, ปาทริซ เอวร่า- ปอล ป๊อกบา, เบลส มาตุยดี้- มุสซ่า ซิสโซโก้, อ็องตวน กรีซมันน์, ดิมิทรี ปาเยต- โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์



    เริ่มเกมได้ 7 นาที ทั้ง 2 ทีมต่างมีลุ้นทำประตู เริ่มจากนานี่ ศูนย์หน้าโปรตุเกสหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงข้ามคาน ตามด้วยการหลุดเข้าไปยิงเช่นกันของอ็องตวน กรีซมันน์ ของฝั่งฝรั่งเศส แต่บอลไม่ตรงกรอบ



    3 นาทีต่อมา ฝรั่งเศสน่าจะได้สกอร์ถึง 2 ครั้งติด โดย เปเป้ กองหลังโปรตุเกสเปิดบอลไม่ดีไปเข้าทางดิมิทรี ปาเยต ที่วางบอลให้กรีซมันน์โหม่งลูกกำลังจะย้อยเสียบใต้คาน แต่รุย ปาทริซิโอ นายทวารโปรตุเกสยังบินปัดลูกออกหลังไปได้ ส่วนลูกเตะมุมก็เป็นโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โหม่งไปตรงตัวปาทริซิโออีก

    อย่างไรก็ตาม จากจังหวะดังกล่าว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จอมทัพคนสำคัญโปรตุเกส ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับปาเยต จนต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนามถึง 2 ครั้ง และสุดท้ายก็ฝืนทนเจ็บไม่ไหว ต้องยอมเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 24



    นาที 34 ฝรั่งเศสเกือบได้ประตูอีกหน จากจังหวะที่มุสซ่า ซิสโซโก้ หมุนตัวพาบอลไปยิงติดเซฟปาทริซิโอ



    จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

    ส่วนครึ่งหลังเริ่มได้ 8 นาที เป็นอีกครั้งที่ฝรั่งเศสได้ลุ้นอีก จากการยิงไกลของปอล ป๊อกบา แต่บอลข้ามคานออกไป

    นาที 66 ฝรั่งเศสพลาดการได้ประตูไปอย่างเหลือเชื่อ เมื่อคิงส์ลีย์ โกม็อง ตัวสำรองที่ลงมาแทนปาเยต เปิดบอลให้กรีซมันน์โหม่งจ่อๆ ไม่กี่หลาข้ามคาน



    9 นาทีถัดมา ฝรั่งเศสน่าจะได้สกอร์ไม่แพ้จังหวะก่อนหน้านี้ จากการยิงของชิรูด์ แต่ปาทริซิโอยังป้องกันไว้ได้อีก




    นาที 80 โปรตุเกสวนกลับจนเกือบได้ประตู เมื่อนานี่กึ่งยิงเองกึ่งผ่าน จนอูโก้ โยริส นายทวารฝรั่งเศสต้องปัดบอลทิ้ง แม้ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ซึ่งลงมาแทนโรนัลโด้จะตีลังกายิงซ้ำ แต่ลูกยังตรงตัวโยริส



    4 นาทีให้หลัง คราวนี้เป็นฝรั่งเศสที่ได้ลุ้น จากลูกยิงไกลของซิสโซโก้ แต่ปาทริซิโอยังลอยตัวเซฟได้

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 จาก 3 นาที อ็องเดร-ปิแอร์ ชินญัก ที่ลงมาแทนชิรูด์ โยกหลอกเปเป้ ก่อนยิงไปชนเสา



    จบ 90 นาที ฝรั่งเศส เสมอ โปรตุเกส 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

    นาที 104 โปรตุเกสเกือบได้ประตูบ้าง จากการโหม่งลูกเตะมุมของเอแดร์ ซึ่งลงมาแทนเรนาโต้ ซานเชซ แต่บอลยังไปตรงตัวโยริส



    ก่อนจบช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0

    เริ่มช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังได้ 3 นาที มาร์ก แคลตเตนเบิร์ก ผู้ตัดสินจากประเทศอังกฤษ ตัดสินผิดพลาดให้โปรตุเกสได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษฝรั่งเศส ทั้งที่บอลไปโดนมือของเอแดร์ แต่แคลตเตนเบิร์กมองว่าบอลไปโดนมือโลร็องต์ กอสเซียลนี่ กองหลังฝรั่งเศส ก่อนที่ราฟาเอล เกอร์เรโร่ แบ๊กซ้ายโปรตุเกสจะปั่นฟรีคิกไปชนคาน

    ที่มา: matichon

    0 comments:

    Post a Comment