พรรคเพื่อไทยกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลายกรรมหลายวาระเริ่มบ่งชี้ โดยเฉพาะกรณีล่าสุดตั๋วเที่ยวบินแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 66 ปี นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร ณ เกาะฮ่องกง วันที่ 26 กรกฎาคม มีอันสะดุด เนื่องด้วยประกาศิต “หญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ที่สั่งเบรกทุกเที่ยวบิน เกรงว่าจะกลายเป็นเป้านิ่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
งานนี้คนเสียหน้ามิวายเป็น “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้มากบารมีในพรรค ที่อุตส่าห์เปิดให้บรรดาอดีต ส.ส. ที่มีความประสงค์จะไปร่วมงานเป่าเทียนลงทะเบียนล่วงหน้า ตั้งใจว่า ปีนี้จะเวอร์วังอลังการ เพราะตรงกับช่วงสุดท้ายของการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญพอดี แต่กลับต้องถูกพับโปรเจกต์กะทันหัน ด้วยอิทธิฤทธิ์ของอดีตเมียพี่ชาย อย่างคุณหญิงกระบังลม
มันแสดงให้เห็นได้อย่างหนึ่งแล้วว่า ดุลอำนาจภายในพรรคกำลังจะเปลี่ยนไป คุณหญิงกระบังลม กลายเป็นเจ้าแม่ใหญ่ที่คอยคอนโทรลกิจกรรมทุกอย่างภายในพรรคไปแล้ว บรรดาเจ๊ ๆ ที่เคยยิ่งใหญ่ภายในพรรค วันนี้ต้องฟังเสียงจากอดีตเมียนายใหญ่เพียงคนเดียว ว่าจะหันซ้ายหรือขวา
ไม่ใช่เพราะคุณหญิงกระบังลม มีฤทธิ์เดช มีอะไร แต่นั่นเป็นเพราะทุกย่างก้าวของนายหญิงรายนี้ คือ ตัวแทนของนายใหญ่ในการที่จะดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ การตัดสินใจของ “หญิงอ้อ” คือ การตัดสินใจของ “ทักษิณ” ที่ถ่ายทอดลงมา ทุกคนมีหน้าที่ต้องฟัง
ว่ากันว่า การขับเคลื่อนของคุณนายบ้านจันทร์ส่องหล้าครั้งนี้ คือ การสังคายนาพรรคเพื่อไทยครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 กรณีถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ หรือการสร้างขุมกำลังใหม่ เพื่อต่อรองกรณีถ้าร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ผ่านประชามติ
โดยเฉพาะการกลับไปอี๋อ๋อกับเจ้าแม่วังทองหลาง “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะซดเกาเหลากันชามโต ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เจ๊ใหญ่ก๊วน กทม. กลายเป็นสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า เพียงไม่กี่วัน
การขยับเขยื้อนต่าง ๆ อย่างถี่ยิบของ “เจ๊หน่อย” ในช่วงนี้ล้วนเป็นการเดินตามหมากที่คุณหญิงกระบังลม และนายใหญ่วางเอาไว้ให้ ในฐานะที่ถูกวางตัวให้เป็นคีย์แมนคนใหม่ของพรรค ตามยุทธศาสตร์ที่นายใหญ่ต้องการปฏิรูปองคาพยพครั้งใหญ่ หลังก่อนหน้านี้ บรรดาอดีต ส.ส. ถูกไหลไปอยู่ฝั่งน้องตัวเองอย่าง “หญิงปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กันหมด
ไม่ใช่ว่า นายใหญ่เกิดอคติกับน้องสาวในไส้ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา การมอบอำนาจให้ดูแลพรรค และตอนเป็นรัฐบาล การขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย สะเปะสะปะ อยู่กันเป็นกลุ่มก๊วน บริหารไร้ฝีมือ เกมการเมืองไม่หลักแหลม แก้ปัญหาไม่ได้ จนนำมาสู่การยึดอำนาจ ในขณะที่ผ่านมาแล้ว 2 ปี การต่อสู้กับคสช. ไม่มีวี่แววว่าจะชนะ บ้อท่ามาตลอด จึงคิดจะจัดระเบียบอำนาจกันใหม่
มองดูตัวละครภายในพรรคที่พอจะปัดฝุ่นมาเป็นสินค้าหน้าร้านก็หมดตัว แม้แต่คนในตระกูลชินวัตร อย่างยิ่งลักษณ์แทบจะปิดเทอมยาวทางการเมือง หลังถูกถอดถอนโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หนำซ้ำยังมีคดีจำนำข้าวในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ขาแหย่คุกไปแล้วข้างหนึ่ง ส่วน เยาวภา แม้จะคุม ส.ส. ได้เยอะ มีบารมีในพรรค แต่ภาพลักษณ์ติดลบ แผลเต็มตัว จับขึ้นหิ้งมีแต่เป็นสายล่อฟ้า ให้คนนินทาหมาดูถูกไปวัน ๆ
ขณะที่ “ชายจืด” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ หมดเครดิตไปแล้ว แถมชะตากรรมยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่รู้จะปิดเทอมยาวไปอีกคนหรือไม่ หรือต่อให้รอดมาได้ จะจับมานำอีกครั้งก็เหมือนของมีตำหนิ
เหลือบซ้ายเหลือบขวาในพรรค หาคนที่เข้ากับสถานการณ์ก็มีแต่ “หญิงหน่อย” ที่พอจะมีคอนเนกชันกับฝั่งทหาร โดยเฉพาะผู้มากบารมีในรัฐบาลชุดนี้ อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่น่าจะพอมีช่องทางสื่อสารจากพรรคเพื่อไทยไปยังทหารได้อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ มันแทบจะปิดสนิท มือประสานสิบทิศอย่าง “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็หมดเครดิตไปเรียบร้อย
การชู “หญิงหน่อย” เป็นการปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ พร้อมสำหรับผลประชามติ ในขณะที่เจ้าแม่วังทองหลางเอง ก็ได้ถือโอกาสปั่นโปรไฟล์ให้ตัวเอง สะสมแต้มทางการเมือง
แม้ในพรรคจะมีเสียงไม่ยอมรับในตัวของเจ๊ใหญ่ กทม. โดยเฉพาะคู่แค้นคู่อาฆาตกันอย่าง “เป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่หลาย ๆ คนที่เป็นมือเป็นไม้ ทำงานของนายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย จาตุรนต์ ฉายแสง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งถ้านายใหญ่โอเค เซย์เยส ใครจะกล้าหือ
การนำ “หญิงหน่อย” เข้ามามีบทบาท ยังเป็นกุศโลบายในการรื้อพรรคใหม่ ทลายกลุ่มก๊วนต่าง ๆ ให้หมด เลิกใช้แผนเก่า เพราะระยะหลังมานี้อดีต ส.ส. ไหลไปอยู่กับน้องสาวในไส้ยิ่งลักษณ์กันหมด เดินตามชายกระโปรงกันเป็นขบวน ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะแบรนด์ “ปูแดง” มันใช้ไม่ได้แล้วกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ต้องใช้ยุทธศาสตร์ใหม่
แต่การเปลี่ยน “หญิงปู” มาเป็น “หญิงหน่อย” มันน่าจะสนุกแน่ อย่างที่รู้กันว่าทั้งคู่ซดเกาเหลากันมาแต่ไหนแต่ไร กระเดียดไปทางผีไม่เผา เงาไม่เหยียบกันเลย อย่างก่อนหน้านี้ ตอนที่ เจ๊ปู เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงน้ำท่วมใหญ่ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ เจ๊หน่อย ในฐานะที่กุม ส.ส. กทม. ภายในพรรค เจ๊ปู ยังแย่งซีนรวบอำนาจในการสั่งการเอาไว้หมด เจ้าแม่สัมปทานอย่างเจ๊หน่อย ถูกเตะกระเด็นตกคลองหายไปเลย
ทว่า มาครั้งนี้ “หญิงหน่อย” ไม่ได้มาตัวเปล่า กับอดีต ส.ส. อีกไม่กี่คน แต่มาในฐานะขุนพล ที่คุณหญิงกระบังลม และนายใหญ่ เลือกมาเพื่อวางระบบกันใหม่ บางคนที่ไม่ชอบหน้าอาจจะต้องอึดอัดกันบ้าง โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ที่วันนี้ถูกลดบทบาท แถมพี่ชายยังเอาศัตรูตัวฉกาจมาแทนที่ตัวเอง งานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด “ศึกสองนางเสือ” มี สิทธิ์ที่จะเข้มข้น
คนหนึ่งน้องสาวในไส้ คนหนึ่งได้รับการความไว้วางใจให้เดินเกมในหมากกระดานใหม่ แม้เป็นคำสั่งนายใหญ่ แต่ยากที่จะไม่ให้ขบเหลี่ยมกันเอง เพราะวันนี้ “หญิงหน่อย” ที่เคยถูกเบียดกระเด็น กำลังจะเปลี่ยนมาเล่นในบทที่เบียดยิ่งลักษณ์ ให้กระเด็นบ้าง
ที่มา: manager
0 comments:
Post a Comment