Thursday, July 21, 2016

Tagged Under:

”นางไก่”ตุ๋นเครื่องราชย์2ล้าน

By: news media On: 6:26 PM
  • Share The Gag
  • ยิ่งสาว-ยิ่งเน่า เหยื่อ “นางไก่“ โผล่ร้องกองปราบอีก 3 ราย อึ้ง! ยายวัย 87 ปี แฉ “นางไก่” อ้างเบื้องสูงหลอกขอเครื่องราชฯ ให้จนสูญเงิน 2.8 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับ “นางไก่” ข้อหาค้ามนุษย์แล้ว พ่วงหมายจับศาลทหาร คดีหมิ่นสถาบันอีกหนึ่งกรรม ส่วน “ศานิตย์” ยันมีตำรวจมากกว่า 16 นาย มีความผิดฐานไม่ตรวจสำนวนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง สตช. ยันยึดหลักความถูกต้อง แจงใครไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล

    เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ก.ค.59 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ว่า วันนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นางมณตา ในข้อหาค้ามนุษย์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1411/2559 ลงวันที่ 21 ก.ค.แล้ว โดยรายละเอียดตนได้ส่งทีมสืบสวนลงไปไปที่แม่ฮ่องสอน ตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 51-ต.ค.53 นางไก่ ไปหลอกชาวเขาหญิง 3 คนมาทำงานรับใช้เรื่อยมา กระทั่งเมื่อปี 2554 ถึง 2555 ได้หลอกให้ชาวลาวมาทำงานรับใช้ในลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นก็มีการบังคับใช้แรงงาน หาผลประโยชน์โดยมิชอบ และยังมีข้อเท็จจริงอีกหลายๆ อย่าง สุดท้ายวันนี้ศาลก็ได้อนุมัติหมายจับนางไก่ ในข้อหาค้ามนุษย์ เหตุเกิดในท้องที่ประชาชื่น เป็นอีกข้อหาหนึ่งที่ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด การขอออกหมายจับเพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่มีอิทธิพล
       
    นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เมื่อปี 54 น.ส.กาบแก้ว สัญชาติลาวได้ออกจากบ้านไปแล้วนางไก่ก็มาแจ้งความว่า ถูกลักทรัพย์ไปจำนวน 12 รายการ 2.9 ล้านบาท ซึ่ง น.ส.กาบแก้วและ น.ส.ทำมา ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนลักทรัพย์ ตนพยายามประสานมาให้ข้อมูลเพื่อต้องการที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์ และต้องการที่จะให้ต่างชาติหรือนานาชาติได้เห็นว่าประเทศไทย รัฐบาลไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถให้ความเป็นธรรมกับทุกคนไม่เฉพาะคนไทย คนต่างชาติจะได้มีความเชื่อมั่นมาประเทศไทย ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเพิกถอนหมายจับลูกจ้างชาวลาวนั้น เรื่องนี้เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 54 ตนได้ประสานกับกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากมีหมายจับและคดีความเกิน 5 ปี ต้องมีหลักประกัน ทาง บช.น. จะช่วยในเรื่องการแสวงหาความยุติธรรม หากชาวลาวทั้ง 2 คนไม่มีความผิด ทั้งนี้ตนจะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อให้มีคำสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 คนได้รับความเป็นธรรม

         ส่วนกรณีนายตำรวจ 16 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน ขณะนี้ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาดูว่ามีการสรุปความเห็นมาอย่างไร ตอนนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาอีก 1-2 คน แต่ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความกังวลว่าจะมีการช่วยเหลือปกปิด เรายึดหลักความถูกต้อง ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิด คือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419 และคำสั่ง ตร. ที่ 960 ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ในเมื่อคำสั่งระบุว่าให้ตรวจสำนวน ตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีตำรวจท่านใด ไปรับใช้จนเกิดเหตุ มีความสนิทสนมจนก่อให้เกิดความไม่เป็นกลาง ก็ต้องรับผิด แต่หากไม่มีการทุจริตอะไร ก็เป็นเรื่องของความผิดวินัยไม่ร้ายแรง อย่างไรก็ตามหากผลสอบออกมาแล้วจะมีการเรียก 16 ตำรวจมาพูดคุยหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่เรียกมาคุย เพราะมีบางคนได้ย้ายออกจากนครบาลไปแล้ว โดยตามขั้นตอนหากผลสอบออกมาแล้ว ตนจะดำเนินการให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจเรตำรวจ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนท้อเท็จจริงต่อไป

         ต่อมาวันเดียวกัน ที่กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้พา นางวริศรา แก้วปลัง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ และบรรณาธิการข่าว น.ส.พ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.สุรินทร์, นางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี และพระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.เพื่อเป็นพยานและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา, พยายามค้ามนุษย์ และความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

         นายสงกานต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นางวริศรา ทราบข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับหญิงไก่ หลายคน จึงอยากเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เนื่องจากนางวริศรา รู้จักกับนางมณตา มาตั้งแต่สมัยที่นางมณตา อาศัยอยู่กับสามีที่ จ.พิษณุโลก ส่วนรายที่ 2 คือ นางสายใย อาชีพหมอนวดนั้น ถูกกลุ่มหญิงไก่หลอกว่าจะขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเสียเงินไป 2.8 ล้านบาท ส่วนรายสุดท้าย พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี รับมอบหมายจากเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดีกับพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ นางมณตา หลังจากถูกนางมณตา พาคนมีสีเข้าไปข่มขู่ให้ออกจากวัดยี่ป่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

         นางวริศรา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ใน จ.พิษณุโลก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเป็นบรรณาธิการ นสพ.ท้องถิ่นได้ถูก หญิงไก่ ฟ้องหมิ่นประมาท และยังมีการกลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนให้อีกหลายเรื่อง พอมีคดีกันทำให้ต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ก่อนหน้านั้นจากที่ตนเป็นประธานสมาพันธ์ธุรกิจบันเทิงก็จะมีการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นประจำทุกเดือนๆ ละครั้ง ซึ่งหญิงไก่ ก็เสนอตัวรับอาสาที่จะเป็นคนเลี้ยงเอง และเป็นฝ่ายไปนัดหมายกับทางโรงเรียนเอง แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมจ่ายเงินที่จัดกิจกรรมให้ รวม 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2536-2540 ต่อมาได้มีผู้ใหญ่ที่เคารพกันท่านหนึ่ง อาสาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เพื่อทวงเงินค่าจัดกิจกรรมดังกล่าวจาก หญิงไก่ แต่หญิงไก่กลับปฏิเสธและได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์ กับตนอีก ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ก็ยังถูกหญิงไก่ฟ้องหมิ่นประมาทรวมแล้วกว่า 10 คดี


         ส่วน นางสายใย กล่าวว่า มีอาชีพเป็นหมอนวดอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ได้ถูกนางมณตา ร่วมมือกับทางเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกว่าหญิงไก่เป็นคุณหญิง และมีความสนิทสนมกับ ท่านผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่สามารถขอเครื่องราชฯ ชั้นสายสะพายให้ได้ ด้วยความที่อยากเป็นคุณหญิง ทำให้ตนหลงเชื่อ โดยโอนเงินไปให้ 5 ครั้ง รวม 2.8 ล้าน กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลังว่าเป็นการหลอกลวง เพราะมีญาติเล่าให้ฟังว่าขณะนี้มีผู้ที่ติดตามทวงเงินจากเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ด้วย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

         ขณะที่ พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทราบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว จึงได้สั่งให้อาตมาซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม เข้าไปรื้อวัดดังกล่าวเพราะเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ แต่กลับถูกนางไก่ และพระที่อ้างตัวเป็นเจ้าอาวาส รวมทั้งชายฉกรรจ์ข่มขู่ โดยนางไก่ อ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง รู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงเกิดความหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายและไม่ได้รับความปลอดภัย จึงแจ้งเรื่องต่อนายสงกานต์ ก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ในวันเดียวกันนี้ เพื่อให้ทางตำรวจช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

         ด้าน พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบช.น. กล่าวถึงผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 16 นาย ที่ทำคดีหญิงไก่ ว่า ต้องรอให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ดำเนินการพิจารณารายงานผลสอบและออกคำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อสืบสวนว่าตำรวจทั้ง 16 นาย มีความเกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือหญิงไก่หรือไม่

    ส่วนอีก 1-2 นายตำรวจที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มเติม แต่ได้ย้ายออกนอกพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลไปแล้วนั้น ก็จะต้องส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
       
    มีรายงานจากกองปราบปรามว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ร.ต.อ.พัฒน์พงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว.(สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองปราบปราม ได้เดินทางไปศาลทหาร เพื่อขออนุมัติหมายจับ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตาม ป.อาญา มาตรา 112 เพื่อใช้ในการนำไปอายัดตัวนางไก่ เพื่อใช้ดำเนินการขั้นตอนทางศาลทหาร โดยยังมีรายงานอีกว่า พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเพิ่มอีก 1 กรรม พร้อมกับนำหมายจับจากศาลทหาร ที่จะได้ในวันนี้ยื่นอายัดตัวต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่วนการสรุปสำนวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงของนางไก่ชุดพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสรุปส่งให้ผู้บังคับบัญชาภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทำการตรวจสอบก่อนสรุปส่งพนักงานอัยการในช่วงสัปดาห์หน้า ต่อมาเวลา 15.40 น. ศาลทหารอนุมัติหมายจับ นางมณตา หรือนางไก่ หมายจับที่ 40/59 หมิ่นสถาบันเบื้องสูงหรือ ม.112 แล้ว

    ที่มา: sanook

    0 comments:

    Post a Comment