Saturday, December 24, 2016

Tagged Under:

สุดผวา! มือมืดทุบรถใน สพป. ศรีสะเกษ เขต 1 คาดเป็นฝีมือลูกเทพรีเทิร์น

By: news media On: 5:32 PM
  • Share The Gag
  • มือมืดทุบภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ขณะที่รอบบริเวณสำนักงานมีรอยสีสเปรย์พ่นรถเจ้าหน้าที่และกระจกห้องทำงานคำว่า 'โกง' เจ้าหน้าที่คาด อาจเป็นฝีมือลูกเทพรีเทิร์น


    เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. 59 ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พนักงานสอบ สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ถูกทุบที่บริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจยังที่เกิดเหตุ

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกง 7605 ศรีสะเกษ จอดอยู่และใกล้กันพบนางฎาริกา พันธ์จันทร์ อายุ 47 อยู่ ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของรถ ยืนอยู่ใกล้รถของตนเอง จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณประตูด้านหลังที่นั่งคนขับมีรอยบุบ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบว่า ผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณที่ผู้เสียหายจอดรถไม่ได้อยู่ภายในมุมกล้องวงจรปิด

    จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เสียหายให้การว่า ตนได้ขับรถคันที่เกิดเหตุมาร่วมประชุมตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และได้นำรถมาจอดบริเวณดังกล่าว และเมื่อเลิกประชุมออกมาเวลาประมาณ 15.00 น. พบว่าบริเวณประตูด้านหลังฝั่งคนขับของตนนั้นบุบคล้ายโดนถีบเข้าอย่างแรง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป                      

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักงานแห่งนี้ได้เคยเกิดเหตุลูกเทพ ชื่อสมมุติ นายเจ  ลูกชายของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง โกรธที่ขอเงินแม่จำนวน 1 ล้านบาท แล้วแม่ไม่ให้ จึงได้ใช้ก้อนหินทุบรถของเจ้าหน้าที่สำนักงานได้รับความเสียหายมาแล้วกว่า 9 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้จับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว แต่ว่าผู้เสียหายไม่เอาความเนื่องจากแม่ของคนร้ายไปเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด  แต่ว่านายเจ ถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว

    เมื่อพ้นโทษตามกฎหมายออกมาแล้ว มีพยานเห็นว่าลูกเทพ ได้นำเอาสีสเปรย์มาพ่นตามบริเวณต่างๆ เช่น กระจก  หน้าต่าง ป้ายสำนักงาน และพ่นสีสเปรย์ใส่รถของเจ้าหน้าที่สำนักงาน ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่สำนักงานพากันหวาดผวาว่า ลูกเทพอาจจะมาทุบรถและเอาสีสเปรย์มาพ่นใส่รถของตนเอง โดยที่ยังไม่มีมาตรการในการแก้ไขปัญหานี้จากผู้บริหารระดับสูงแต่อย่างใด

    ที่มา: sanook

    0 comments:

    Post a Comment