คลื่น ปชช.ยังเนื่องแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่บริเวณโดยรอบของท้องสนามหลวง และบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง ประชาชนจากทั่วสารทิศ ยังคงเดินทางมารอเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง กันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยทุกวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการบริการประชาชน ทั้งอาหาร น้ำดื่ม และด้านการแพทย์ต่างๆ แต่ก็จะเป็นในช่วงเวลากลางวันจนถึงเวลาท้องสนามหลวงปิดประมาณ 21.00 น.เท่านั้น ดังนั้นช่วงเวลาหลัง 21.00น. เป็นต้นไป ยังคงมีประชาชนรอคอยเพื่อเข้าถวายบังคมพระบรมศพเป็นจำนวนมาก ทำให้มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชน ทั้งนี้ หากผู้ใดสนใจจะสมัครเป็นจิตอาสา ก็ได้เปิดให้สมัครแบบวันต่อวัน และสามารถโทรมาแจ้งความจำนงค์ล่วงหน้า และเข้ามาลงทะเบียนได้ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
รับสมัครจิตอาสาด่วน
ด้านพลตรีพงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กอร.รส เปิดเผยว่า ทางศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร Volunteers for Dad ได้เปิดรับอาสาสมัครบริการประชาชน และ อาสาสมัครแจกสิ่งของให้กับประชาชนที่มารอต่อแถวเข้าสักการะพระบรมศพ ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 22.00-02.00 น. อาสาสมัครช่วยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสงค์จะพักค้างคืนที่ศูนย์กีฬาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 23.00-03.30 น. ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 064 026 6212 และลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 09.00-22.30 น.ที่ศูนย์ประสานงาน Volunteers for Dad มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ส่วนการเตรียมความพร้อมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่จะมีขึ้น ในวันที่ 31ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ณ ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำแผนการดูแลอำนวยความสะดวก บริการประชาชน รวมถึงการดูแลความปลอดภัยให้สอดคล้องกันระหว่างประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ และประชาชนที่เดินทางร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลในทุกส่วนโดยเฉพาะด้านการบริการ
54 วันยอดทะลุ 2.1 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 04.45 -22.24 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 53,803 คน รวม 54 วัน มีจำนวน 2,191,196 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล จำนวน 4,769,934.50 บาท รวม 54 วัน มียอดเงินรวมจำนวน 174,523,775.25 บาท
ดย.ทบ.แต่งเพลงเทิด ร.๙
ส่วนพล.ต.กฤษดา สาริการ เจ้ากรมดุริยางค์ทหารบก (ดย.ทบ.) เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ให้กรมดุริยางค์ทหารบกประพันธ์แต่งเพลง เทิดพระเกียรติ ถวายความอาลัย “ในหลวง รัชกาลที่ 9” องค์จอมทัพไทย และเพื่อเป็นการแสดงซึ่งความจงรักภักดี และมอบเป็นของขวัญปีใหม่ด้วยบทเพลงให้ชาวไทยทุกคน ได้น้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ท่านมีต่อประชาชนชาวไทย ทาง ดย.ทบ.จึงได้แต่งเพลง “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ขับร้องโดย นายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ ชมพู ฟรุ๊ตตี้ ทำนองโดยดย.ทบ. ก่อนที่จะออกเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับฟังกันต่อไป
พรปีใหม่จากทูตมะกัน
มีรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาออกวีดิทัศน์เพื่ออวยพรปีใหม่แก่ชาวไทย ขอให้ทุกคนมีความสุขสดชื่นในปีใหม่นี้ วีดิทัศน์เพลง “พรปีใหม่” ความยาว 90 วินาทีนี้ร้องโดยเอกอัครราชทูตกลิน ที. เดวีส์ และอัครราชทูตที่ปรึกษาปีเตอร์ เฮย์มอนด์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและอเมริกัน “พรปีใหม่” เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2494 เพื่อพระราชทานพรแก่ชาวไทยในวาระขึ้นปีใหม่ สถานทูตฯ เลือกเพลง “พรปีใหม่” สำหรับวีดิทัศน์เทศกาลปีใหม่ปีนี้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บทเพลงนี้สื่อถึงความหวังและความสุข เป็นบทเพลงฉลองปีใหม่ที่ชาวไทยชื่นชอบและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
พระราชทานหน่วยแพทย์
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่เต็นท์หน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณท้องสนาม ฝั่งทิศเหนือ บริเวณทางเข้าที่ประชาชนจะเดินเข้ามารอภายในเต็นท์ก่อนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงห่วงใยในพสกนิกรที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งให้มีหน่วยแพทย์พระราชทาน มาดูแลสุขภาพประชาชนเป็นประจำทุกวัน ต่อเนื่องจนครบ 100 วัน โดยวันนี้มีหน่วยแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ จำนวน 10 คน แพทย์ พยาบาล นักปฏิบัติการฉุกเฉิน เวชกรฉุกเฉิน จากโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก จำนวน 5 คน มาให้บริการดูแลประชาชนตลอดทั้งวัน
โปรดเกล้าฯ น้ำ- อาหาร
วันนี้ (24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศเหนือ เยื้องกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยรวมอยู่ภายในศูนย์อาหารบริการประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน
สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชนประจำวันที่ 24 ธ.ค. 59 ประกอบด้วย มื้อเช้า เวลา 07.00 น. กระเพาะปลาน้ำแดง 2,500 ถ้วย กาแฟสด 2,500 แก้ว นมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวันเวลา 11.00 น. ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ 1,000 ถ้วย ข้าวคลุกกะปิ 1,500 จาน ข้าวพะโล้หมูตุ๋น ไข่นกกระทา 1,000 จาน ส้มตำ (ไทย, ปู ปลาร้า) 1,000 ชุด ไก่ทอด ข้าวเหนียว 7,000 ชุด มื้อบ่ายเวลา 16.00 น. ขนมไทย 1,000 กล่อง ซาลาเปาหมูแดง หมูสับ 1,000 ลูก เฉาก๊วยชากังราว 1,000 ถุง น้ำสมุนไพร 700 ลิตร มื้อเย็นเวลา 18.00 น. ข้าวหน้าปลาซาบะ 2,000 จาน หมูเทอริยากิ 1,000 จาน น้ำอ้อยพาสเจอไรซ์ 1,000 ซอง และมีน้ำดื่มให้บริการประชาชนตลอดทั้งวัน
ผบ.ทบ.รปภ.เข้มปีใหม่
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงระดับกองพัน วาระพิเศษประจำเดือนธันวาคม ว่า วันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนการปฏิบัติงานแค่ละกองพันใน 3 กรอบการทำงาน 1.การปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ทั้งการช่วยเหลือปัญหาราคาข้าวตกต่ำ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยหนาว และการกำจัดผักตบชวา รวมทั้งเตรียมการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่จะมีขึ้นในช่วง ม.ค. 2560 นี้ 2.การดูความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาว และ 3.วางมาตรการรองรับช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมกวดขันวินัยจราจร โดยปฏิบัติการร่วมกับตำรวจในการดูแลพื้นที่จัดกิจกรรมปีใหม่
สำหรับการดูแลพื้นที่ที่เคยมีเหตุการณ์ความรุนแรง เช่น แยกราชประสงค์ นั้น ศูนย์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (สมบ..) โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้มีการประชุมและกำหนดรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่จัดกิจกรรมปีใหม่ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการอย่างครบถ้วน บริเวณใดที่เป็นเส้นทางเปลี่ยว ต้องติดไฟเพิ่มเติม จัดเวรยามดูแลการจราจรให้ครบถ้วน สมบูรณ์ เพื่อให้ประชาชนฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข แต่อยู่ในกรอบที่เหมาะสมกับห้วงเวลานี้
ที่มา: banmuang
0 comments:
Post a Comment