Thursday, December 22, 2016

Tagged Under:

สำนักจานบินนับวันถูกเปิดโปง ยิ่งนานธาตุแท้เรื่องชั่วร้ายยิ่งโผล่

By: news media On: 5:31 PM
  • Share The Gag
  • ทั้งคนห่มเหลืองและแกนนำสำนักจานบินนับวันจะเผยธาตุแท้ตัวตนโดยพอถูกจับได้ว่าทำผิดกฎหมายซึ่งแทนที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างสง่าผ่าเผยตามกระบวนการยุติธรรมกลับเผ่นหนีเอาตัวรอดดื้อๆแบบไม่อาย

    อย่างกรณี พระทัตตชีโว ที่ก่อนนี้รักษาการเจ้าสำนักจานบิน ซึ่งถูกออกหมายจับฐานช่วยเหลือให้ที่พักพิงแก่ ธัมมชโย อดีตเจ้าสำนัก ที่หนีหมายจับฐานฟอกเงินรับของโจรคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและรุกป่าสงวนแห่งชาติสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสาขาสำนักจานบินในหลายจังหวัดทั่วประเทศ หรือ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกปากกล้าของสำนักจานบิน ที่ถูกออกหมายจับฐานปลุกปั่นยุยงเหล่าสาวกสำนักจานบินให้มาแสดงพลังหวังต่อต้านขัดขวางการเข้าจับกุม ธัมมชโย ของเจ้าหน้าที่ปรากฏว่าต่างพากันหนีหมายจับอย่างไร้ร่องรอยโดยเฉพาะ นายองอาจหมดลายโฆษกฝีปากกล้าโดยมีรายงานบางกระแสระบุว่าเผ่นออกนอกประเทศไปแล้ว

    ล่าสุดหลังจากที่ศาลจังหวัดธัญบุรีอนุมัติให้ตำรวจออกหมายเรียก พระสุธรรมญาณวิเทศ (สุธรรม สุธัมโม) ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเจ้าสำนักจานบิน ไปรับทราบข้อกล่าวหาฐานให้การช่วยเหลือให้ที่พักพิงแก่ ธัมมชโย ไม่ให้ถูกจับกุมตามหมายจับของดีเอสไอและตำรวจ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดย พระสุธรรม เข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาและนัดหมายกับพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปยื่นต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในวันที่ 21 ธ.ค. เพื่อขอประกันตัว แต่เมื่อถึงวันนัดปรากฏว่า พระสุธรรม เบี้ยวนัดหน้าตาเฉย

    การที่ พระสุธรรม เบี้ยวนัดไม่ยื่นขอประกันตัวต่อศาลก็เพราะกลัวว่า หากศาลไม่ให้ประกันตัว พระสุธรรม ต้องถูกจับสึกก่อนนำตัวเข้าห้องขัง เมื่อพระสุธรรม เบี้ยวส่อเจตนาหลบหนี ตำรวจก็ต้องออกหมายจับ

    ความจริงแล้วหาก พระสุธรรม มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองต้องไม่หลบหนีและพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างสง่าผ่าเผย และยิ่งเป็นผู้ทรงศีลที่ต้องละแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวงยิ่งจะต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความจริงอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่นี่กลับเผ่นแน่บไม่กล้าสู้หน้ากับความจริง

    การที่ พระสุธรรม ธัมมชโย ทัตตชีโว และเหล่าสาวกล้วนส่อพฤติการณ์หนีหมายเรียกหมายจับของศาลเท่ากับไม่ยอมกล้าสู้กับความจริงรวมทั้งส่อทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมายไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม

    ยิ่งสำนักจานบินดื้อแพ่งไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายทอดระยะเวลาออกไปนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ขยายผลเพื่อเอาผิดกับสำนักจานบินเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดมีการแจ้งความดำเนินคดีสำนักจานบินแล้ว 159 คดี และนับวันคดีจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเรื่องราวความเลวร้ายไม่ชอบมาพากลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสำนักจานบินจะถูกเปิดโปงตีแผ่ต่อสาธารณะเข้มข้นมากขึ้น

    159 คดีของสำนักจานบิน อาทิ หมายจับ ธัมมชโย ข้อหาฟอกเงินรับของโจรคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่และรุกป่าสงวนแห่งชาติตลอดจนที่สาธารณะสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสำนักจานบินหลายจังหวัดทั่วประเทศ หมายจับ พระทัตตชีโวและพระสุธรรม ฐานช่วยเหลือให้ที่พักพิง ธัมมชโย หมายจับ นายองอาจ ฐานปลุกปั่นยุยงให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง สร้างอาคารหลายอาคารและขุดบ่อน้ำบาดาลหลายบ่อภายในสำนักจานบินโดยไม่ได้รับอนุญาต สร้างสะพานรถวิ่งหลายสะพานรอบสำนักจานบินโดยไม่ได้รับอนุญาตและกีดขวางทางสาธารณะ การใช้อุปกรณ์ อาทิ ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ขวางประตูทางเข้าสำนักจานบิน หรือใช้ตะปูเรือใบโรยบนถนนรอบสำนักจานบินเพื่อขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการบุกจับ ธัมมชโย

    ล่าสุดกำลังตำรวจนำโดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เดินทางไปตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรมมุกตะวันของสำนักจานบินที่เกาะยาว จ.พังงา พบมีการทำ ผิดกฎหมายรุกป่าสงวนแห่งชาตินับร้อยไร่ และยังมีการเสนอขายแพ็กเกจบริการห้องพักอ้างว่าเพื่อปฏิบัติธรรม ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ด้วยราคาค่าบริการที่ลดหลั่นตามความหรูหราสะดวกสบายของห้องพักไม่ต่างจากรีสอร์ทหรือโรงแรมชั้นดี ซึ่งพฤติการณ์ดุจธุรกิจรีสอร์ทในคราบศูนย์ปฏิบัติธรรมเป็นการทำผิดกฎหมายซ้ำสองเพราะนอกจากผิดหลักศาสนาและรุกป่าสงวนแห่งชาติแล้ว ยังอาศัยป่าสงวนแห่งชาติแสวงหาผลประโยชน์เชิงธุรกิจ

    และจากการเข้าตรวจสอบภายในศูนย์ปฏิบัติธรรมมุกตะวัน จ.พังงาอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 และตำรวจพบซากปะการังหลายชนิดจำนวนมากถูกนำมาถมเป็นพนังป้องกันการพังทลายของดิน และซากปะการังส่วนหนึ่งถูกนำไปประดับตกแต่งบริเวณโคนต้นไม้และอาคารที่พักของศูนย์ปฏิบัติธรรมมุกตะวันซึ่งเป็นการทำผิดพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตวป่าหรือซากสัตว์ป่า

    พฤติการณ์ของสำนักจานบินทั้งหมดข้างต้นส่อทำตัวเป็นรัฐอิสระเหนือกฎหมาย และที่สำคัญก็คือขุมทรัพย์ที่คาดว่ามีมูลค่าหลายแสนล้านบาทของสำนักจานบินทั้งในและนอกประเทศถูกตั้งข้อสงสัยว่า ซ่อนไว้ด้วยเบื้องหลังแหล่งฟอกเงินและธุรกิจสีเทาที่ได้มาจากการฉ้อฉลโดยบางส่วนมีเบาะแสว่าถูกนำไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่

    ด้วยพฤติการณ์ของสำนักจานบินจึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่วัดหรือศูนย์ปฏิบัติธรรม แต่เป็นรัฐอิสระที่ทำตัวเหนือกฎหมายที่นับวันจะถูกตีแผ่ให้เห็นตัวตนที่แท้จริงมากขึ้นตามลำดับ


    ที่มา: naewna

    0 comments:

    Post a Comment