พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากนั้นที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีเฟจเฟซบุ๊คพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ เผยแพร่ข้อมูลการเข้าถึงระบบสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่ชาติโดยมิชอบ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำโดย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิปัญญา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศุภเชษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. พล.ต.ต.ศิริพงศ์ ติมุลา ผบก.สนับสนุนทางเทคโนโลยี ให้ร่วมกันทำการสืบสวน ใช้เวลา 3 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายเอ ที่บ้านพักย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดฮาร์ดดิส แผ่นดีวีดีบันทึกข้อมูล และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายรายการนอกจากนั้นยังพบอาวุธปืนสั้น 2 กระบอก ปืนยาว 1 กระบอก โครงปืน 2 อัน พร้อมกระสุนและอัญชาอัดแท่ง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นสมาชิกกลุ่มแฮคเกอร์ในเฟซบุ๊กและแอพพลิเคชันไลน์หลายกลุ่ม โดยได้เจาะเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นๆ ส่งขอมูลไปให้ผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ล เกตเวย์ เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อ ส่วนอาวุธปืนที่พบนอกจากเจาะระบบของรัฐแล้วยังขายอาวุธปืนผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2552 และข้อหาอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา
ผบ.ตร.กล่าวต่อมา นายเอ เป็นคนที่มีความรู้พอสมควร แต่ตกเป็นเหยื่อกลุ่มต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ หลอกให้ส่งข้อมูลให้เขา จากนั้นกลุ่มต่อต้านก็จะนำมูลมูลไปไอโอทำให้คนหลงเชื่อต่อไปอีก ฝากไปยังคนที่มีความรู้คอมพิวเตอร์อย่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มดังกล่าว ส่วนกลุ่มคนที่เหลืออยู่อยู่ระหว่างการสืบสวนถ้าถึงเอาจับหมด อะไรผิดกฎหมายดำเนินคดีหมด แล้วอย่ามาขอประกันตัวแล้วกัน
ด้าน พล.ต.ต.ศิริพงศ์ ติมุลา ผบก.สนับสนุนทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากเฟจเฟซบุ๊คกลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ ได้เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลยุยงปลุกปั่นให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลให้ละเมิดกฎหมาย โดยการโจมตีระบบข้อมูลหน่วยงานรัฐ โดยอ้างเป็นการประท้วงรัฐบาลมีแนวคิดการจัดตั้งซิงเกิลเกตเวย์และประท้วง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เรียนว่าเฟชบุ๊คกลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ ไม่ใช่แค่เฟจธรรมดา แต่เป็นระบบปฏิบัติการในโลกไซเบอร์ โดยที่ระดับหัวหน้า ผู้สั่งการ ขบวนการสมาชิก ไม่จำเป็นต้องมาเจอหน้ากันแต่สามารถบอกอุดมการณ์ ออกคำสั่งการแผนยุทธการกำหนดเป้าหมายวันเวลาได้ เมื่อผู้ปฏิบัติการสามารถกระทำได้และส่งผลงานกลับมาเพื่อเปิดข่าวสารก็จะเป็นวงรอบแบบนี้
กระบวนการเหล่านี้จะแบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับที่ 1 คือระดับสั่งการเผยแพร่ข้อมูล ระดับนี้คนที่อยู่เบื้องหลังเฟจ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาตัว ระดับที่ 2 คือระดับปฏิบัติการ ก็แบ่งเป็นย่อยอีกหลายกลุ่ม อย่างเช่นเมื่อมีผลงานก็จะมีเครดิตเครื่องหมายแฮทแท็ก แฮ็ทแทกชื่อกลุ่มต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนได้จัดลำดับความสำคัญกลุ่มกระบวนการไหนเป็นกองกำลังใหญ่เราได้ทำทำเนียบไว้แล้ว
ส่วน พล.ต.อ.เดชณรงค์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยต่อว่า กรณีนี้ต้องแจ้งให้คนที่ยังเหลือกระทำความผิดอยู่ต้องหยุด เพราะตำรวจมีศักยภาพเข้าถึงตัวพวกท่าน เวลานี้หน่วยงานความมั่นคงได้ขยายผลนำตัวผู้ต้องสงสัยมาซักถามตามกระบวนการ รู้ว่าตัวเองที่มีศักยภาพแต่อย่าใช้ศักยภาพในทางที่ผิด ถ้ารับเงินรับทองจากใคร ต้องดูว่าสมควรหรือไม่ ถูกเขาหลอกใช้ตกเป็นเครื่องมือต้องหยุดทันที ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัวพวกท่านอย่างแน่นอน
ที่มา: banmuang
0 comments:
Post a Comment