“พิเคราะห์ดูบทบาทของยอดนารีขี่ม้าขาวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เธอน่าจะได้ตุ๊กตาทอง
เห็นข่าวท่าน ผบ.กองทัพบก ยื่นอกออกมาสารภาพว่าเป็นความบกพร่องของกองทัพบกเอง จนทำให้อดีตนายกปูหนีไปได้ ทำให้พิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของเธอได้ว่า
1.พยายามสร้างภาพว่ายอมรับในกระบวนการยุติธรรม
2.พยายามไปศาลทุกครั้งที่มีหมายนัด ทั้งที่อยากจะหนีใจจะขาด
3.พยายามสร้างภาพเพื่อเรียกคะแนนสงสาร และให้เชื่อว่าเธอจะต่อสู้ด้วยความจริงใจ แม้มีความหวังแค่เปอร์เซ็นต์เดียวก็ตาม ขออย่าซ้ำเติมกันอีกเลย เธอกล่าว
4.ทุกครั้งที่เธอไปศาลจะพยายามเรียกร้องให้กองเชียร์ไปให้กำลังใจ เพื่อให้เกิดภาพทางสังคมโลกว่าเธอยังเป็นที่ยอมรับอยู่ แม้จะโดนคดีทุจริตก็ตาม
5.ตลอด 3 ปีที่เธอไปศาล จะมีการปล่อยข่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมในทำนองว่า ศาลปฏิเสธพยานบุคคลหรือหลักฐานทางเอกสารที่ทนายของเธอจะยื่นต่อศาลเพิ่มเติมอย่างมีนัยยะ
6.สังเกตจากภาพข่าว ดูภาษากายที่เธอแสดงออกต่อมวลชนที่มาให้กำลังใจ แม้จะมีการพูดคุยจับไม้จับมือ มอบดอกไม้ และสวมกอด เธอมักจะเอียงคอเบนหน้าให้ห่างจากมวลชนอยู่เป็นนิจ เหมือนกับเธอกลัวหน้าจะไปสัมผัสกับมวลชน จะด้วยเหตุผลใดสุดจะคาดเดา
7.ตลอด 3 ปี ที่เธออยู่ในการเฝ้าดูของเจ้าหน้าที่ คสช. เธอจะพยายามออกเดินทางด้วยขบวนรถหลายคัน หากมีเจ้าหน้าที่ คสช.เฝ้าติดตามใกล้ชิด เธอและบริวารก็จักโวยวายต่อสื่อว่าเป็นการละเมิดสิทธิ
8.เมื่อเธอออกเดินทางบ่อยเข้า โวยวายเรื่องการละเมิดสิทธิบ่อยๆ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ต้องสั่งการให้ถอยห่างออกมา แล้วให้คอยดูอยู่ห่างๆ
9.ถึงกระนั้น เธอก็ออกเดินสายตระเวนไปทั่ว ด้วยข้ออ้างไปทำบุญพบปะผู้คน แท้จริงแล้วคือการเช็คการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ คสช.ว่าหละหลวมขนาดไหน
10.เมื่อเธอสามารถปลดพันธนาการในการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ได้ แผนหนีก็เริ่มขึ้น
รวมความแล้ว 3 ปี ที่เธอเล่นละครตบตาเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ก็เพื่อการหนีนั่นเอง
แน่นอนคนที่คิดแผนนี้ต้องไม่ใช่เธอแน่ แต่ต้องเป็นคนระดับมันสมองชั้นหัวกะทิหรือระดับเสธยุทธการทีเดียวแหละ (คงไม่ใช่เสธของ คสช.ดอก) จึงสามารถสร้างภาพลับลวงพราง ตบตา คสช.ได้เป็นผลสำเร็จ"
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment